เรื่องเด่น พระพิฆเณศ : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 11 พฤษภาคม 2017.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    18423962_450326695312595_1580516438613922449_n.jpg


    พระพิฆเณศ เป็นมหาเทพชั้นผู้ใหญ่ที่สถิตย์อยู่บนสวรรค์ชั้นที่ 2 คือดาวดึงส์
    การที่ท่านอยู่ชั้นที่ 2 ไม่ใช่ท่านมีบารมีน้อยกว่าเทพอื่นๆที่อยู่สวรรค์ชั้น 3 4 5 หรือ 6
    แต่เพราะท่านมาทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือมนุษย์จึงมาอยู่ชั้นนี้ เพราะสวรรค์ชั้นที่ 1 และ 2
    จะสามารถรับรู้ความเป็นไปของมนุษย์ได้สะดวกกว่า

    พระพิฆเณศ เป็นชื่อตำแหน่งหนึ่งบนสวรรค์ อันที่จริงท่านไม่ได้มีหัวเป็นช้าง ท่านเป็นชายหนุ่ม รูปงามมาก วิมาณของท่านสวยงามตระการตา มีดาวระยิบระยับ และมีดอกดาวเรืองสีเหลืองรอบๆวิมาณ

    และพระพิฆเณศที่เป็นรูปปั้นปางค์ต่างๆ หรือที่ถือดาบ หรือ ถืออาวุธ จริงๆแล้วท่านไม่ได้ใช้ดาบเลย เพราะไม่รู้จะไปสู้รบกับใครเพราะท่านมีจิตที่เมตตามาก

    การบูชาท่านนั้น ไม่จำเป็นต้องบูชาด้วยสิ่งมีค่ามากมายหรือบูชาที่เคร่งครัดพิธีกรรมอะไรมาก
    เช่นไม่จำเป็นต้องซื้อรูปปั้นท่านราคาแพงๆเพื่อมาบูชา เพียงมีรูปท่านไว้ หรือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนองค์ท่านก็พอแล้ว

    ขอให้บูชาด้วยจิตที่ศรัทธา เพราะท่านรับรู้รับทราบวาระจิตของผู้คนได้ โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาท่านอย่างแรงกล้า ท่านสามารถช่วยเหลือผู้นั้น ให้พบความสุข ความเจริญได้

    และท่านก็มีบริวารมากมายคอยช่วยเหลือดูแลผู้บูชาท่านอีกทีหนึ่ง มีผู้คนมากมายที่บูชาและเป็นศิษย์ท่านพบการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต

    การที่ท่านช่วยเหลือผู้นั้น ไม่ใช่ท่านไปเพิ่มบุญหรือไปตัดทอนกรรมของคนนั้น แต่ท่านสามารถยักย้ายถ่ายเท นำบุญที่คนนั้นได้สร้างไว้ในอดีตชาติแต่งยังไม่ให้ผลนำมาแทรกให้ผลในปัจจุบันได้

    ดังนั้นสิ่งดีๆทีเกิดขึ้นเมื่อบูชาท่าน เกิดจากผลบุญของผู้บูชาเองที่ได้สร้างไว้ แต่องค์ท่านได้จัดสรรค์มาให้ในชาตินี้และควรทำบุญเพิ่มเติมด้วย

    หากใครเคยมีบุญสัมพันธ์กับองค์ท่านมาก่อน เขาจะรับรู้ได้เมื่อถึงเวลา และองค์ท่านจะมาเตือนหรือส่งนิมิตมาให้รับรู้โดยวิธีการต่างๆ เช่นการดลใจ หรือการติดต่อผ่านผู้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้คนกับองค์ท่าน

    แต่หากใครไม่มีบุญสัมพันธ์กับท่าน ก็สามารถเริ่มบูชาท่านเป็นอาจารย์ได้ตั้งแต่ภพชาตินี้

    วิธีขอฝากตัวเป็นศิษย์องค์พระพิฆเณศ ให้จัดหารูปเหมือนท่านจะเป็นรูปถ่าย รูปวาด หรือรูปปั้น มาเป็นรูปเคารพแทนองค์ท่าน ไม่ต้องสนใจเรื่องราคา หรือต้องปลุกเสกมาก่อนหรือไม่ หรือต้องถวายขนมให้องค์ท่านตามประเพณี นั่นไม่ใช่ประเด็นเลย

    รูปปั้นราคาเป็นแสนปลุกเสกด้วยพราหมณ์ผู้ทรงอภิญญากับรูปถ่ายท่านราคา 5 บาท คุณค่าเท่ากันเลย จากนั้นหาบายศรี เพื่อเป็นเครื่องสักการะบูชา จะเป็นบายศรีปากชาม บายศรีเทพ พรหมก็ได้ เสมือนเป็นการบูชาครู

    วันที่จะบูชาท่าน จะเป็นวันอะไรก็ได้ ขอให้วันนั้นเรามีจิตผ่องใส และเปี่ยมด้วยศรัทธาต่อท่าน
    แต่หากจะเอาฤกษ์เอาชัยกันจริงๆ ก็ควรเป็นพฤหัส เพราะเป็นวันครู

    เวลากราบท่านขอให้แบมือเหมือนกราบพระ และตั้งจิตอธิษฐานขอกล่าวฝากตัวเป็นศิษย์ท่านตั้งแต่บัดนี้ไป และขอให้ท่านได้มาช่วยเหลือ และชี้แนะทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามที่องค์ท่านเห็นสมควร เพียงเท่านี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์องค์พิเณศแล้วครับ

    และเวลาจะอธิษฐานถึงท่าน หรือจะถามอะไรหรือจะข้อร้องอะไร ไม่จำเป็นต้องสวดคาถาภาษาบาลี อะไรให้ยุ่งยากเลย เหมือนที่คนที่ชอบยึดติดพิธีกรรมมักทำกัน ขอให้เราพูดออกมาหมือนพูดกับญาติผู้ใหญ่ เป็นภาษาไทยๆ ธรรมดาๆที่แหละ

    ที่สำคัญ คือ การบูชาพระพิฆเณศ ไม่ใช่การเปลี่ยนศาสนา ตามความเชื่อของเราๆท่านที่เชื่อว่า
    พระพิฆเณศเป็นของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ต้องนับถือฮินดูก่อน หรือทำให้เราถอยห่าง
    จากคำสอนพระพุทธศาสนา นี่คือความเชื่อที่ผิด

    ขอให้นับถือท่านเปรียบเหมือนญาติผู้ใหญ่ของเรา เราเคารพพ่อ แม่ ปู ย่า ญาติผู้ใหญ่
    ของเราอย่างไร เราก็เคารพท่านเช่นนั้น การเคารพญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้ทำให่เราเปลี่ยนศาสนาอย่างไร การเคารพท่านก็อย่างนั้นครับ

    หากเคารพท่านแล้วไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตที่ต่างไปจากชีวิตประจำวันเดิมๆเลย
    เช่นไม่ต้องห่มขาวเหมือนพราหมณ์ หรือไปทำพิธีบูขาพระพิฆเณศต่างๆตามพิธีกรรมของฮินดู
    เพราะนั่นคือพิธีกรรมของทางฮินดูที่คิดค้นขึ้นมาเอง จากวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของเขา

    องค์ท่านเป็นเทวดาระดับมหาเทพ ท่านไม่ได้มายึดติดกับขนบธรรมเนียมพิธีกรรมมากมาย
    ท่านปารถนาจะช่วยเหลือเพื่อนมนุ๋ษย์ให้พ้นทุกข์ แต่ขอให้จิตผู้นั้นศรัทธาองค์ท่านอย่างแท้จริง
    ก็พอ พิธีกรรมเป็นเรื่องรองลงไป

    ต้องแยกแยะให้ออก เรามีวัฒนธรรมของเราอย่างไร เราก็ดำเนินไปตามนั้น

    เรายังมีพระรัตนไตรเป็นสรณคมน์ เรานับถือพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด เป็นศาสดาสูงสุด เป็นบรมครูผู้เลิศที่สุด และวิธีทางของพระพิฆเณศก็เป็นวิถีทางเดียวกับพระพุทธศาสนา คือ ทาน ศีล ภาวนาและเชื่อกฎแห่งกรรม

    เพียงแต่องค์ท่านเป็นเหมือนญาติผุ้ใหญ๋จะคอยชี้ทางเราได้เดินตามรอยทางแห่งพระพุทธศานา
    ได้ตรงทางขึ้น

    https://www.facebook.com/groups/287049074816527/
     
  2. danray

    danray สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
  3. changthai

    changthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +515
    จริงทุกประการ สาธุ
     
  4. สีกาอร

    สีกาอร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +599
    หลวงพ่อกล่าวไว้ในหนังสือเล่มใด เทปม้วนใด ขออ้างอิงด้วยค่ะ
     
  5. merumas

    merumas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +222
    จำได้ว่าหลวงพ่อเคยเล่าเรื่องพระพิฆคเณศไม่ได้มีหัวเป็นช้าง แต่ไม่มีรายละเอียดแบบนี้

    บทความนี้คัดมาจากเล่มหรือเทปไหนคะ สำนวนไม่เหมือนหลวงพ่อเลย เขียนเพิ่มเติมเองรึเปล่าคะ
     
  6. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,101
    sa94.jpg
     
  7. namiohi

    namiohi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +26
  8. changthai

    changthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +515
    พบพระพิฆเนศ
    ผู้ถาม
    หลวงพ่อเจ้าขา ลูกนั่งสมาธิพบท่านพิฆเนศมีหัวเป็นช้าง ตัวเป็นคน ในสมาธินั้นท่านเอามือของลูกไปแบแล้วรมอะไรไม่รู้...สีแดงแจ๊ด! บอกว่า..."เอ็งจะต้องมีฤทธิ์มีเดชต่อไปข้างหน้า" ลูกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก ลูกสงสัยว่าในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เทวดามีหัวเป็นช้าง ลูกไม่เคยเจอเลย ไม่รู้ว่าลูกจะทำสมาธิเพี้ยนไปหรือเปล่า...หลวงพ่อช่วยชี้แจงความเพี้ยนของลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ
    มาดีแล้ว ๆ ความจริงไม่เพี้ยน อย่างนี้เขาเรียกว่า..."โรคอุปาทาน" คือว่าตามธรรมดาที่เราเห็นน่ะ หัวเป็นช้างใช่ไหม...นั่นเป็น "ลัทธิของพราหมณ์" ในเมื่อเคยเห็นแบบนั้น ท่านมาท่านก็แสดงแบบนั้นก่อน อย่างเทวดาหรือพรหมนางฟ้าทุกคนน่ะ ความจริงท่านอาจจะตายสมัยแก่นะ คือเทวดา นางฟ้า พรหม...ไม่แก่ สาวหมด! ทีนี้เวลามาหาเราเขาแสดงภาพเดิมที่เราเห็น เขาตายเป็นคนแก่ก็ให้เห็นภาพคนแก่ ท่านพิฆเนศก็เหมือนกัน ท่านมารูปอื่นก็คงจำไม่ได้ ต้องมารูปหัวช้าง (หลังจากหลวงพ่อนำอุทิศส่วนกุศลแล้ว ก็มีเรื่องพระพิฆเนศมาเล่าให้ฟังอีก)

    หลวงพ่อ
    ตอนอุทิศส่วนกุศล ถามว่าท่านพิฆเนศเป็นพรหมหรือเป็นเทวดาชั้นไหน เพราะเห็นมีทั้งพรหมและเทวดาเยอะแยะ ใสมาก ท่านบอกไม่ใช่พรหม ถามว่าเป็นเทวดาชั้นปรนิมฯ ใช่ไหม...ท่านบอกไม่ใช่ เป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ สวยมาก ท่านบอกว่าคนที่ถามเมื่อกี้นี้ เคยเป็นลูกท่านมา ท่านก็หวังจะสงเคราะห็ ต้องถอยหลังไปหลายชาติหน่อยนะ คือไม่น้อยกว่าพันชาติ (หลวงพ่อยังมีเรื่องพระนารายณ์มาเล่าให้ฟังอีก)


    พระนารายณ์
    หลวงพ่อ
    เทวดากับสัตว์ เทวดากับมนุษย์มันต่อกันไม่ได้ เพราะมนุษย์ก็ดี สัตว์ก็ดี มันมีธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเทวดาเขาไม่มีธาตุนี่ มีเหมือนอากาศธาตุ มันต่อกันได้ที่ไหนล่ะ ที่ว่าหัวเป็นช้าง เพราะว่าพราหมณ์แกหาเรื่องคุย อย่างพระนารายณ์นี่ก็เหมือนกัน พระนารายณ์นี่ฉันหาไม่พบ

    ผู้ถาม
    แล้วมีไม่จริงหรือครับ?

    หลวงพ่อ
    มี...สักประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว คืนหนึ่งมันว่าง คือไม่ได้ว่างมาก เขาเจริญกรรมฐานแบบนี้ละนะ พอเลิกแล้วประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ๆ เวลาไปพักมันยังไม่หลับ ๖ ทุ่มหรือตี ๒ เป็นธรรมดา ถ้าถีง ๖ ทุ่มต้องอยู่ถึงตี ๒ ถ้าขืนหลับ ๖ ทุ่ม อาจจะเลยเวลา เพราะเจริญกรรมฐานตอนตี ๒ เมื่อถึงเวลาว่างก็เที่ยวไปเที่ยวมา เที่ยวมาเที่ยวไป ตามเรื่องตามราว ใช่ไหม...ก็ไปนึกถึงพระนารายณ์ได้ นึกนารายณ์อยู่ชั้นไหน แล้วเทวดาองค์ไหนเป็นนารายณ์ เข้าไปหาในกามาวจรทั้งหมด ไม่พบพระนารายณ์ ถามแต่ละชื่อไม่มีนารายณ์เลย ไอ้ความโง่ของฉันน่ะ ก็ย่องไปพรหมอีก ถามพระนารายณ์ที่พรหมไม่มี กลับมาหาโยม ถามโยม...พระนารายณ์ที่พราหมณ์ตั้งชื่อให้มีตัวจริงไหม ท่านบอกตั้งแต่ฉันเป็นเทวดาไม่เคยมีเลย โยมท่านเป็นเทวดา ๒ รอบ พระอินทร์ ๒ รอบนะ เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่หมดอายุไปทีแล้ว ฟังเทศน์แล้วจุติเป็นพระอินทร์ใหม่ ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าพระอินทร์หนุ่ม ท่านอยู่ถึง ๒ รอบยังไม่รู้จักนารายณ์ ไล่ไปไล่มา ถาม...ถ้าเขาบนพระนารายณ์ เทวดาองค์ไหนรับ ท่านบอกมีก็มเหสักขาไงล่ะ มเหสักขา แปลว่ามีฤทธิ์มาก ท่านพิฆเนศชื่อ ปิยสิกขะ เพิ่งบอกเดี๋ยวนี้ละนะ มีสิทธิ์ในความรัก แม้แต่เขาให้หัวเป็นช้างยังชอบเลย

    ผู้ถาม
    ยังงี้เราก็บนได้ซิ

    หลวงพ่อ
    ถ้าจะบนท่านนะ ตอนให้พรท่านบอกให้หมูต้มชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องโต กับข้าวปากหม้อเท่านั้นนะ

    คัดลอกมาจาก facebook คำสอนหลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ)
     
  9. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +467
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...