เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

.
ของสังฆทานนี่ ไม่ต้องมากมาย
ยาสีฟัน ๑
แปรงสำหรับสีฟัน ๑
ยาสระผม ๑
ใบมีดโกน ๑
สบง ๑
อังสะ ๑
ผ้าอาบน้ำ ๑
หนังสือธรรมะ ๑
ยาสามัญ ๑
นี่เหล่านี้ถวายพระสงฆ์
ก็เรียกว่า สังฆทาน มีประโยชน์ไม่เรื่องมาก

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

คุณอาครับ
10/10
กระทู้ที่งดงามครบ8ปี
ขอบคุณ คุณอามากๆครับ

 

วันที่ 10 เดือน 10 เป็นวันพฤหัสฯที่ถือว่าเสมือนวันครูบาอาจารย์ ตบด้วยวันพระวันธรรมสวนะข้างขึ้น

รวมความคือ "วันดีเป็นศรีวัน" อย่าได้สงสัย "สตรีทบุญ" ค่อนข้างคับคั่ง ร่วมอนุโมทนาตามไปอย่าตกขบวนบุญ!

 

เพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกันว่า นี่คือวันที่ 10 เดือน 10 กำเนิดกระทู้ "เรื่องเล่าฯ" เมื่อ 8 ปีที่แล้ว วันอันยาวนานแต่ก็ไม่ยาวไกลเกินการเดินทาง

แม้มิใช่ "พิลกริม-ผู้แสวงบุญ" แต่รายทางที่ผ่านก็อบอุ่นด้วยการบุญสุนทานธรรมมากมายไม่ขาดสายขาดระยะ รวมทั้งสมาชิกเหนียวแน่น "น้องบานชื่น" ก็เป็นหนึ่งในสารตั้งต้น ต้องขอคารวะด้วยใจจริง

'อดีต' ผ่านเลย คิดถึงบ้างเป็นครั้งคราวแต่อย่าหมกมุ่นหรือใส่ใจมาก ดังคำสอนพระพุทธองค์ ส่วน 'อนาคต' ยังมาไม่ถึง...

จงทำ "ปัจจุบัน" ให้ดีที่สุด มอบความรู้ความบันเทิงทั้งทางโลกผสานทางธรรมน้อยๆต่อไป ไม่ถึงกับเป็น "ผู้สอน" เป็นแค่ "ผู้ถ่ายทอด" อย่างมีสาระมีชั้นมีเชิง ก็เหลือแหล่

น้องบานชื่น ทักทายนานๆครั้ง แต่ไม่เคยยั้งนิ้วในการกด "เลิฟ" ทุกกระทู้ ขอขอบคุณอย่างแรงครับผม

 

"หลวงปู่" แนะของทำ'สังฆทาน'
ล้วนเรียบง่ายได้ใช้ประโยชน์...

**ยาสีฟัน....ปันกับแปรง
ใบมีดแบ่ง...จัดแจงจง
สบงคละ......อังสะสงฆ์
ผ้าอาบองค์..ชงยาสามัญ
--'สังฆทาน'......งานงามง่าย
--งดงมงาย.......จ่ายสะบั้น
--สรรประโยชน์..ห่างโทษขันธ์
--บุญเกิดพลัน....เท่าทันธรรม!

 

หลวงพ่อสีนวล วัดเกวียนหัก
ขุนแผนอันดับ1เมืองจันทน์ฯ
===============


**พ่อ'สีนวล'..ชวนชื่นชม
เพียรเพาะบ่ม..สมเล่าขาน
งานพระศาสน์...ศาสตร์สืบสาน
เชี่ยวเชิงชาญ......การแผนไทย
--เสริม'เกวียนหัก'..หลักเมืองจันทน์
--ปรับปรุงปัน.......โบสถ์บันใหญ่
--ใหม่ศาลาฯ........สถาป์ไว้
--มูลนิธิฯให้.........ดอกใบพัฒนา!
‐----------------------

พระครูถาวรธรรมธัช (สีนวล ธมฺมทฺธโช) วัดเกวียนหัก ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ. จันทบุรี ภิกษุสงฆ์องค์เอกที่บารมีธรรม เมตตาบารมีและความเก่งรอบด้าน เชี่ยวชาญทั้งแพทย์แผนโบราณ เก่งฉกาจว่านสมุนไพร เป็น "หมอกลางบ้าน" ที่พึ่งของชาวบ้านห่างไกลหมอสมัยใหม่

ความยอดเยี่ยมของท่านเกินพรรณนาครบถ้วน รวมทั้งเวทย์วิทยาครบครันทุกศาสตร์ ทำให้เป็น "เพชรเม็ดงาม"รูปหนึ่งของวงการสงฆ์ภาคตะวันออก เปล่งประกายรัศมีเป็นที่ยอมรับทั่วทุกทิศ

หลวงพ่อสีนวล รักษาคน-สัตว์ พัฒนาวัด พัฒนาคน พัฒนาธรรม มั่นคงในธรรมสมนามสมณศักดิ์ สร้าง "วัดเกวียนหัก" เก่าโบราณทรุดโทรม ผงาดขึ้นเป็นวัดชั้นนำแห่งอำเภอขลุง

ท่านสร้าง-ปรับปรุง...
--พระอุโบสถ
--ศาลาการเปรียญ
--โรงเรียน
--สุสาน
===ฯลฯ===

ก่อตั้งมูลนิธิมอบเงินตนเอง 600,000 บาทในยุคค่าเงินแพง เป็นทุนตั้งต้นนำดอกผลพัฒนาวัด ทุนการศึกษา เจ็บไข้ได้ป่วยมีเงินรักษาทั้งพระเณรได้อย่างน่ายกย่องในการมองไกล แม้ในวันที่ท่านจากไปแล้ว

ความยิ่งใหญ่ของ หลวงพ่อสีนวล จึงตราตรึงอยู่ในความทรงจำชาวเมืองจันทบุรีมิเสื่อมคลาย ยิ่งวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้ให้ลูกศิษย์คุ้มตัว ก็ทำอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน มวลสารชั้นยอดรวบรวมไว้นานปี พิธีมหาพุทธาภิเษกหลายครั้ง รวมทั้งอธิษฐานจิตเดี่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมั่นใจจึงแจกจ่ายให้ศิษย์และชาวบ้าน

หนึ่งในวัตถุมงคลที่ถูกยกย่องว่า เป็นเอกและเป็นอันดับ 1 ของเมืองจันทบุรี ก็คือ "พระขุนแผน ปี 2500"

เป็นครั้งแรกที่นำวัตถุมงคลของท่านลงกระทู้ จึงขอคัดลอกความที่เขียนกันไว้เกือบทุกเว็ป มาประมวลไว้ดังนี้...

ท่านเริ่มสร้าง "ขุนแผนวัดเกวียนหัก" ปี 2499 ส่วนผสมและมวลสารบันทึกไว้ชัดเจนไม่มั่วนิ่ม-;

--ผงอิทธิเจ-ปถมัง(หมอสอน สิงห์ชัย นำมาจากนครปฐม)
--ผงหลวงพ่อเพชรสะสมมานับสิบปี 1 บาตร
--ผงท่านพ่อยวน นนทบุรี 1 บาตร
--ไคลเสมา 7 โบสถ์
--ดิน 7 ป่าช้า
--ดิน 7 ท่าเฉพาะท่าที่มีนามมงคล
--ดิน 7 โป่ง
--ว่าน 108
--หนาม 108 เคล็ดผ่านพ้นอุปสรรคพงหนาม

***พิธีพุทธาภิเษกพระชุดนี้
-- 1.ณ ศาลศักดิ์สิทธิ์เจ้าพ่อหลักเมืองขลุง
-- 2.พุทธาภิเษก วัดใหม่เมืองจันทน์ หลวงพ่อสีนวลดำเนินงาน เป็นครั้งแรกของจังหวัดจันทบุรี ลือลั่นสนั่นเมือง
-- 3. ลพ.สีนวลอธิษฐานจิตเดี่ยววาระเข้าพรรษาทุกคืน
-- 4.จัดพิธีพุทธาฯ 7 วัน 7 คืน โดยนิมนต์ 9 คณาจารย์เลื่องชื่อ
-- 5. พิธีมโหฬารหนสุดท้าย วัดเกวียนหักในปี 2500 ด้วยเกจิอาจารย์ 108 รูป ปลุกเสกกระทั่งโบสถ์ลั่นสั่นไหว ได้รับฉายาอีกหนึ่งว่า "พระขุนแผนโบสถ์ลั่น" หนึ่งเดียวของจันทบุรี

เปิดกรุนำมอบร่วมบุญครั้งแรก ชมความงามสุดติ่ง และผลงานสุดเข้มขลังทรงพลัง พระหลักพันกลางไม่เคยผ่านใช้หรือต้องมือใคร แต่มีตำหนินิดเดียว จึงให้ร่วมบุญด้วยราคาตามใจฉัน...

=======1,800=======

สุดยอดแห่งความงามของพระเนื้อดินผสมผง ผู้รับมือแรกนำท่านเคลือบชะแล็คเก็บรักษาอย่างดี ทำให้คงสภาพสวยงามน่าทึ่งไว้ได้ ทั้งที่สร้างปี 2499 นำแจกจริงช่วง 25 พุทธศตวรรษ

ชะแล็คโบราณแห้งหมดกลิ่นนานแล้ว เหลือเพียงร่องรอยที่ยังเคลือบผิวไว้เท่านั้น

ความสุดยอดที่ทำให้เป็นอันดับ1 ตลอดกาลเมืองจันทน์ คือการจารสดของหลวงพ่อสีนวล ท่านจารเองทุกองค์ บางองค์จารตัวเดียว 5 ตัว หรือ 6 ตัว!!!

มีร่องรอยถลอกด้านบนสุดข้างหลังเล็กน้อย จากการเก็บแล้วพระกระทบกระแทกกัน กับรอยถลอกด้านข้างอีกนิดเดียว ไม่มีสองรอยนี้ จะเป็นองค์ "ยอดแชมป์" โค่นองค์ดาราได้เลย!

ทุกรอยตำหนิ ไม่ข้องเกี่ยวอย่างใดกับองค์พระด้านหน้า

ขอบหนาแต่บิด
นิดหน่อยประสา
พระเก่าเกิน60ปี

ขนาดย่อมกว่าพระขุนแผนอื่นๆ
เพียงเล็กน้อย เรียกว่าไม่ใหญ่
เทอะทะเกินไป เชิญชมให้สุขใจ
สบายตาไม่ต้องเคาะก็มิเป็นไร
อยากให้ชมของดีวาระครบ8ปี!

***หลวงพ่อสีนวล เกิด 10 กรกฏาคม 2443 ในตระกูลผู้ดีมีอันจะกิน บิดาเป็น "ท่านขุนเจริญสมบัติ" ตระกูล "ดีสมบัติ"

อุปสมบท 6 พฤษภาคม 2463 ณ วัดเกวียนหัก...ช่วงต้นของการบวชสนใจศึกษาวิชาแพทย์แผนไทย รับการถ่ายทอดวิชาจาก หมอพร้อม เวชวงศ์ ผู้มีชื่อเสียงเก่งกาจมาก ทำให้ท่านกลายเป็นพระภิกษุที่เก่งด้านนี้เป็นที่พึ่งของคนทั้งตำบล รวมทั้งการศึกษาศาสตร์อื่นครบด้าน คือไสยเวทย์ตำราไทยและตำราเขมร หลวงพ่อสมองดีมาก ศึกษาสิ่งใดก็เก่งและเชี่ยวชาญอย่างน่าทึ่ง!

--2495 เป็นเจ้าอาวาสวัดเกวียนหัก-เป็นเจ้าคณะตำบล
--2503 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระครูถาวรธรรมธัช
--19 ตุลาคม เดือนนี้เมื่อปี 2539 ท่านมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี 3 เดือน 10 วัน ครองสมณเพศไร้ด่างพร้อย 76 พรรษา

อีกไม่กี่วันครบรอบ 28 ปีที่ หลวงปู่สีนวล อำลาสู่แดนเกษม นำวัตถุมงคลชั้นยอดให้ชมและร่วมบุญ ถือว่ารำลึกถึงพระสงฆ์ทองคำรูปหนึ่งของประเทศ!!!

 

@wanwi ฮ่าๆ รู้อีก ใช่ค่ะ มุกำลังเตรียมเดินทางไปบวชแล้วกราบลาพระอาจารย์แล้ว หากกราบลาพระอาจารย์ให้ท่านได้อนุโมทนาบุญ คือเป็นการให้สัจจะกับตัวเองและท่านค่ะ จนพระอาจารย์ต้องกล่าวขึ้นมาว่า โยมคนนี้มาทุกปี มาลาบวชก่อนจะใช้คฑาจารยันต์ลากตั้งแต่หน้าผากจนถึงท้ายทอย อีกท่านมุไม่ได้เจอ ตั้งใจว่าหลังทำงานเสร็จจะเริ่มแวะไปวัดที่มีหลวงปู่มั่นขนาดใหญ่ แม้ว่ามุเรียนจบไปหลายปี มุยังคงเทียวไร้เทียวขื่อ หากเป็นหลวงปู่ท่านจะเป่ากะหม่อมให้ ท่านนี้มุยังไม่ได้เจอค่ะ คิดว่าอาศัยการกราบหน้าโบสถ์เอาแล้วบอกกล่าวก็เกินพอแล้ว

เสื้อชุดขาวพร้อมแล้ว เหลือเรื่องการเดินทาง ต้องดูเรื่องกระแสน้ำเป็นสำคัญ วัดที่มุไปอยู่ใกล้แม่น้ำ หากไปไม่ได้ก็ไปวัดอื่น แต่พยายามไปเท่าที่ทำได้ เพราะอยากปฏิบัติธรรมและต้องแน่ใจว่าไม่ทับซ้อนกับการหาหมอด้วย เพื่อนจะรู้ทันทีว่าหากมุจะบวช คือ ไม่เคยรู้ๆ อยู่ๆ ก็หอบเป้ไปใบหนึ่ง ถึงวัดแล้วค่อยบอก มุคุยกับหัวหน้าแล้วว่าขอลดภาระงานลง เพราะว่าเทอมนี้ มุสอนเกินภาระงานและทำงานหนักเกินไป อาจารย์คะมุผลักดันน้อง ๆ แล้ว ให้เวลามุพักบ้างนะคะ อยากพักจริงๆ จนคราวนี้หลายท่านเห็นมุทำงานหน้าบ้าน หลังบ้าน มุมองแล้วพร้อมวางมือ มุทำดีที่สุดแล้วเท่าที่มุทำได้ ตอนนี้เหลือทำคะแนนค่ะ แล้วก็กำลังจะรับนกมาเลี้ยงเพิ่มค่ะ เดี๋ยวจะปล่อยนกนะคะ รอมุว่างก่อน ต้องขออนุญาตทำงานก่อนค่ะ

 

วันพระ สวดมนต์บทใหญ่แล้วแวะเข้ากระทู้เพื่อกล่าวสวัสดีราตรีสวัสดิ์ เจอข้อความจากอาจารย์มุ นานๆครั้งร่ายยาวเฟื้อย ก็อ่านอย่างเดียว และรีบอนุโมทนาบุญที่กำลังจะไปปฏิบัติ ขอให้ทุกอย่างจงราบรื่น อย่าได้ข้องขัดทั้งการเดินทาง และสุขภาพที่ดี

ปฏิบัติธรรมสำหรับปุถุชน ก็เหมือน "ชาร์จแบตเตอรี่" ที่เราควรกระทำอย่างน้อยปีละสัก 2-3 ครั้ง ช่วยได้มากทีเดียว โดยเฉพาะผู้มีงานเยอะต้องขับเคี่ยวกับผู้คนทั้งหวังดีและประสงค์ร้าย ทำให้ "จิตตก"บ่อย พลอยเสียสุขภาพด้านอื่นไปด้วย

ชารร์แบตฯแล้ว "ใจฟู" กลับมาลั้ลลา ปล่อยนกปล่อยปลาหาแมว แจกนกสมาชิกสักฝูงนะอาจารย์-ฮ่า

 

วันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เผลอกระพริบตา เวลาก็เดินทางมาถึงวันสุข...เอ้ย ศุกร์

พรุ่งนี้ ได้พักผ่อนต่อเนื่องอีก 3 วันเพราะมีวันหยุดชดเชยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในวาระที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต 13 ตุลาคม 2559 ถือเป็นวัน "นวมินทรมหาราช" ที่เราชาวไทยควรจดจำระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นฟ้าท่วมแผ่นดินที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติฝากไว้จนประเทศไทยกลายเป็น..."แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ในห้วงรัชสมัย!!!

ร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรวันนี้ กราบถวายแด่พระองค์ท่านล่วงหน้าไว้ก่อน แล้วค่อยจัดเต็มวันอาทิตย์ที่จะถึง

 

"หลวงพ่อสาย วัดกระโจมทอง"
รูปถ่ายรุ่นแรกหลังจารสด-02
===============

2 ฟากฝั่งลุ่มน้ำแม่กลองเรียงรายด้วยวัด และพระภิกษุสงฆ์ชั้นยอด ยังคุณประโยชน์แด่พระพุทธศาสนา ชาวบ้าน ชุมชน มากมายเหลือจักคณานับ...!

เชิญพบกับหนึ่งในยอดขุนพลลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ไม่ต้องตีกลองร้องป่าวผลักดันประกาศนาม ทุกเขตคามถิ่นนั้นรู้ดีว่า ท่านเด็ดดวงที่สุดรูปหนึ่ง ครบบู๊-บุ๋น...

"พระครูสาครสุวรรณคุณ"-หลวงพ่อสาย สุวณฺณจนฺโท" อดีตเจ้าอาวาสวัดกระโจมทอง ต.หลักสอง อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร

ท่านโด่งดังลือชื่อขนาดไหน?

ก็ไม่มากนักหรอก แค่ครูเพลงแถวหน้าของประเทศ "ชลธี ธารทอง" แต่งเพลงให้กับท่านและขับร้องโดยยอดขุนพลเพลงลูกทุ่ง "เสรี รุ่งสว่าง" ชื่อเพลง "หนุ่มทุ่งกระโจมทอง" ในปี 2524

"หลวงพ่อสาย" จึงโด่งดังมาก เข้ากับประโยค "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"!

ด้วยเพลงที่แต่งนี้ เกิดหลังจาก "หลวงพ่อสาย" มรณภาพไปแล้วถึง 12 ปี จึงไม่ใช่เพลงเชียร์ เพลงดัน เพลงอวย แต่เป็นบทเพลงรำลึกถึงคุณงามความดี ความเก่งเลอเลิศ และคุณประโยชน์มหาศาลต่อสังคมชุมชนที่ท่านฝากไว้



**แว่วเสียงเพลง..บรรเลงร่าย
ถึง"พ่อสาย"......คลายทุกขี
'ชลธี'เขียน....เพียรสดุดี
มอบ'เสรี'.....ขยี้เอื้อน
--'กระโจมทอง'....ทองหนุ่มทุ่ง
--เจิดจรุง...........รุ่งเรืองเพื่อน
--เตือนตราตรึง..คะนึงเยือน
--อย่าแชเชือน...เลือนลืม"หลวงพ่อ"!

***ขอบพระคุณภาพ+สาระเรื่องราวส่วนใหญ่จาก "สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง" ยอดผลงานคุณภาพที่นักสะสมบูชาพระเครื่องสามารถค้นคว้าได้อย่างจุใจ ***
-------------------------

"หลวงพ่อสาย" เกิด 20 พฤศจิกายน 2449 อุปสมบท "วัดตาลบำรุงกิจ" มีรายนามคณาจารย์สุดยอดลุ่มน้ำแม่กลองบวชให้กับท่านดังนี้-;

--หลวงพ่ออินทร์ วัดตาลฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
--ลพ.สุทธิ์ วัดใหม่สี่หมื่น พระกรรมวาจาจารย์
--ลพ.ชุ่ม วัดราชคราม พระอนุสาวนาจารย์

หลวงพ่อสายจึงเปรียบประดุจกำเนิดในรังพยัคฆ์ แถมเป็นลูกพยัคฆ์ที่ขยันหมั่นเพียรเป็นที่สบใจรักใคร่เอ็นดูของครูบาอาจารย์ท่านจึงรับวิชาการทุกแขนงเต็มเปี่ยม

เมื่อท่านถึงเวลาขึ้นครองวัดกระโจมทองในปี 2482 จึงเป็นเจ้าวัดที่เพียบพร้อมเป็นที่พึ่งของชาวบ้านกับลูกหลานที่มาพึ่ง

ท่านอนุเคราะห์ทั้งรักษาโรค เชี่ยวชาญยาต้ม ยาสมุนไพร ใครโดนคุณไสย มนต์ดำกระทำมา ก็เสกเป่า ถากไม้หายป่วยไข้ ไล่เสนียดเป็นอัศจรรย์!

"วัดกระโจมทอง" ในยุค "หลวงพ่อสาย" เป็นเจ้าอาวาส เจริญรุ่งเรืองล้ำหน้า ทั้งความสามารถของท่านและการเสียสละกำลังทรัพย์-กำลังกายพัฒนา คัดมาเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ...

--ซื้อที่ดินขยายเขตวัดจำนวน 12 ไร่ 2 งาน 80 ตรว. โดยใช้ทรัพย์มรดกส่วนตัว!!!
--เปิดโรงเรียนประถมศึกษาวัดกระโจมทอง ปี 2482 และสร้างอาคารเรียน โดยท่านติดต่อวิ่งเต้นเอง ให้ลูกหลานชาวกระโจมทองมีที่เรียนหนังสือ
--ปี 2508 นักเรียนมากขึ้น ซื้อที่ดินเพิ่มขยายเขตวัดเป็น 17 ไร่เศษสร้างอาคารเรียน
--สร้างศาลาการเปรียญ
--หอสวดมนต์
--หอระฆัง+โรงครัว
--กุฏิทรงไทย 6 หลัง
=====ฯลฯ=====

ปี 2511 คุณงามความดีอันลือกระฉ่อนทั่วคุ้งน้ำ ทำให้ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ "พระครูสาครสุวรรณคุณ"( ผู้มีคุณดั่งสายน้ำทองคำ)!!!

น่าเสียดายการตรากตรำงานเสียสละทำให้ หลวงพ่อสาย อายุไม่มากนัก ท่านมรณภาพ 28 มิถุนายน 2512 สิริอายุ 63 ปี 41 พรรษา

หากอยู่ยืนยาวสัก 80 เศษ ผลงานและชื่อเสียงท่านจะเกรียงไกรยิ่งกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่าพันทวี...!

อย่างไรก็ตาม บริสุทธิ์สงฆ์เปี่ยมวิสุทธิคุณเช่นนี้ ใช่จะหาได้ง่ายๆ วันนี้จึง เปิดกรุนำ "ภาพถ่ายรุ่นแรก" ปี 2502 ซึ่งเป็น "ต้นแบบเหรียญใบสาเก" ที่ท่านสร้างไว้ในปีนั้น มอบร่วมบุญ

เชิญชมเป็นขวัญตา เป็นความรู้...ปรารถนานำยอดพยัคฆ์ลุ่มน้ำแม่กลองบูชา ก็เชิญ...

=======1,500=======

รูปถ่ายขาวดำขนาด 1×1 นิ้ว ปกติจะเป็นรูปอัดกระจกออกจากวัด แต่ก็มีบางท่านรับเปลือยมาอย่างนี้ ชมความเก่า+คราบปรอทของกระดาษอายุ 65 ปี รักษาไม่ดีก็เปื่อยยุ่ย

รูปมีสัญลักษณ์อักขระยันต์ที่ผ้าสังฆาฏิชัดเจน และเป็นรูปที่นำไปถอดทำเหรียญใบสาเกปีเดียวกัน ซึ่งจะมีภาพให้ชมเปรียบเทียบ

หลวงพ่อสายอายุ 53 ในปีนั้น กำลังแกร่งด้วยสรรพวิชาครบด้าน เป็นภิกษุสงฆ์เปี่ยมเมตตา "ผู้ให้" ที่ยิ่งใหญ่ ท่านทำสิ่งใด ปลุกเสกอะไรก็ขลัง เขียนยันต์ให้ตัวเดียวยังเที่ยวได้ทั่วไทย

"ไอ้หนุ่มตังเก" ชลธี ธารทอง รู้ดี!!!
เส้นสายลายมือแท้ๆของ "หลวงพ่อสาย" เยี่ยมยอดเปี่ยมพลัง ขลัง คลาสสิค!

ขนาด 1×1 นิ้ว นำไปอัดกรอบ
น่ารักและไม่สิ้นเปลือง เขาว่า
พกรูปเหมือน"พกตัว"ไปด้วย!

รูปหลวงพ่อสายในเหรียญปี 02 ท่านั่ง-อักขระยันต์ที่ผ้าสังฆาฏิแบบเดียวกันเปี้ยบ รุ่นอื่นๆจะไม่มีรูปแบบนี้ (ภาพจาก "สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง")